วาทะของท่านโยคีบรมหงส์ โยคานันทะ
Mankind is engaged in an eternal quest for that “something else” he hopes
will bring him happiness, complete and unending. For those individual souls
who have sought and found God, the search is over: He is that Something
Else.
มนุษย์ดำเนินการแสวงหาอย่างถาวรเพื่อให้ได้”บางสิ่งบางอย่าง” ที่เขาหวังว่า
จะนำความสุขที่ถาวรและไม่มีที่สิ้นสุดมหาให้แก่ตน แต่ลำหรับจิตวิญญาณ
ของบุคคลที่แสวงหาจนพบพระเจ้าแล้ว การแสวงหานั้นได้ยุติลงแล้ว พระเจ้า
ก็คือ”บางสิ่งบาอย่าง”นั่นแหละ.
Why should you think He is not? The ether is filled with music that is caught
by the radio — music that otherwise you would not know about. And so it is
with God. He is with you every minute of your existence, yet the only way to
realize this is to meditate.
ทำไมคุณถึงคิดว่าพระเจ้าไม่มี อากาศที่เต็มไปด้วยเสียงดนตรีนั้นสามารถรับได้
ด้วยเครื่องรับวิทยุ ทำให้คุณสามารถได้ยินเสียงดนตรีได้ นี่ก็เช่นเดียวกับพระ
เจ้า พระองค์อยู่กับคุณในทุกนาทีที่คุณมีชีวิตอยู่ แต่วิธีที่จะให้คุณรับรู้ได้ก็คือ
โดยการทำสมาธิ.
“It is not a question of belief,” [my guru said]. “The scientific attitude one
should take on any subject is whether it is true. The law of gravitation
worked as efficiently before Newton as after him. The cosmos would be fairly
chaotic if its laws could not operate without the sanction of human belief.”
“มันมิใช่ปัญหาของความเชื่อ” (คุรุของข้าพเจ้าบอก) ”ท่าทีทางวิทยาศาสตร์ที่
บุคคลมีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้นก็คือมันเป็นความจริงหรือไม่? กฎแห่งความโน้ม
ถ่วงของโลกทำงานอย่างมีประสิทธิผลก่อนที่นิวตันจะค้นพบและหลังที่เขาค้น
พบแล้ว จักรวาลคงจะเกิดความวุ่นวายแน่หากฎของมันไม่สามารถทำงานได้
โดยปราศจากความเห็นชอบของความเชื่อของมนุษย์.”
Our great whirling planet, our human
individuality, were not given to us merely that
we might exist for a time and then vanish into
nothingness, but that we might question what
it is all about.To live without understanding
the purpose of life is foolish, a waste of time.
The mystery of life surrounds us; we were
given intelligence in order to solve it.
โลกอันกว้างใหญ่ของเรา กล่าวคือความเป็นมนุษย์ของเรานี้ มิได้ถูกประทาน
มาให้แก่เราเพียงเพื่อที่จะให้เราดำรงอยู่ชั่วกาลแล้วเสื่อมสูญไปในความไม่มี
อะไร แต่เป็นสิ่งที่เราพึงตั้งคำถามว่ามันเป็นสิ่งอะไรกันแน่ การอาศัยอยู่ในโลก
นี้โดยไม่รู้วัตถุประสงค์ของชีวิตเป็นความโง่เขลา เป็นการเสียเวลาเปล่า สิ่งลี้
ลับแห่งชีวิตห้อมห้อมเราอยู่ เราได้รับประทานดวงปัญญามาเพื่อที่จะได้นำมา
ใช้ตอบคำภามในข้อนี้.
Change yourself and you have done your part in changing the world. Every
individual must change his own life if he wants to live in a peaceful world.
The world cannot become peaceful unless and until you yourself begin to
work toward peace. It is only by removing hate from our hearts that we can
live a Christ like life.
จงเปลี่ยนแปลงตัวคุณแล้วทำตัวของคุณให้มีส่วนในการเปลี่ยนแปลงโลก
มนุษย์ทุกคนจะต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเองหากเขาต้องการจะมีชีวิตใน
โลกที่มีสันติภาพ โลกไม่สามารถมีสันติภาพได้หากตัวคุณเองไม่เริ่มทำงาน
เพื่อนำไปสู่สันติภาพนั้น ด้วยการขจัดความเกลียดชังไปจากใจของเราเท่านั้น
ก็จะทำให้เราสามารถมีชีวิตประเสริฐดุจชีวิตของพระเยซูได้.
It is not your passing thoughts or brilliant ideas so much as your plain
everyday habits that control your life....Live simply. Don’t get caught in the
machine of the world — it is too exacting. By the time you get what you are
seeking your nerves are gone, the heart is damaged, and the bones are aching.
Resolve to develop your spiritual powers more earnestly from now on. Learn
the art of right living. If you have joy you have everything, so learn to be
glad and contented....Have happiness now.
มิใช่ความคิดที่ผ่านไปและแนวคิดอันบรรเจิดที่ควบคุมชีวิตของคุณ ทว่ามันคือ
ลักษณะนิสัยประจำวันที่เรียบง่ายของคุณที่ควบคุมชีวิตของคุณ จงดำรงชีวิตที่
เรียบง่าย อย่าได้ขัดขวางกลไกของโลก ปล่อยให้มันเป็นไปตามทางของมัน
เมื่อใดที่คุณได้สิ่งที่เสาะแสงหานั้นแล้ว ประสาทของคุณก็จะหมดสิ้นไป ใจ
ของคุณก็จะถูกทำลาย กระดูกของคุณก็จะเกิดการเจ็บปวด จงมุ่งมั่นที่จะ
พัฒนาพลังจิตของคุณให้มากตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จงเรียนรู้ในศิลปะแห่งการ
ดำชีวิตที่ถูกต้อง หากคุณมีความสุข คุณก็จะมีทุกสิ่ง ดังนั้นจงเรียนรู้ที่จะยินดี
และพอใจในสิ่งที่มีอยู่ ขอจงมีความสุขตั้งแต่บัดนี้.
Birth, play, marriage, children, old age — life is finished. That is not living!
Life is much deeper and more wonderful than that.... When you know God,
there is no more sorrow. All those you loved and lost in death are with you
again in the Eternal Life.
การเกิด การเล่น การแต่งงาน ความเป็นเด็ก และวัยชรา -เป็นชีวิตที่สิ้นสุดลง
แล้ว นั้นมิใช่ชีวิตที่แท้จริง ชีวิตเป็นสิ่งที่ลึกล้ำและวิเศษยิ่งไปกว่านั้น ...เมื่อคุณ
รู้จักพระเจ้าแล้ว ก็จะไม่มีความเศร้าโศกอีกต่อไป บุคคลที่คุณรักและสูญเสียไป
ในความตายทุกคนนั้นก็จะได้ไปอยู่กับคุณอีกครั้งหนึ่งในวิชิตนิรันดร.
Your being has two sides — one visible, the other invisible. With open eyes
you behold objective creation, and yourself in it. With closed eyes you see
nothing, a dark void; yet your consciousness, even when dissociated from
form, is still keenly aware and operative. If in deep meditation you penetrate
the darkness behind closed eyes, you behold the Light from which all creation
emerges. By deeper samadhi, your experience transcends even the
manifested Light and enters the All-Blissful Consciousness — beyond all
form, yet infinitely more real, tangible, and joyous than any sensory or
supersensory perception.
ตัวตนของคุณมีสองด้าน ด้านหนึ่งก็สิ่งที่มองเห็น และอีกด้านหนึ่งคือสิ่งที่มอง
ไม่เห็น ด้วยดวงตาที่ลืมคุณก็จะมองเห็นสิ่งสร้างสรรค์ที่เป็นวัตถุและตัวตน
ของคุณที่อยู่ในสิ่งสร้างสรรค์ที่เป็นวัตถุนั้น ด้วยดวงตาที่หลับคุณจะไม่เห็นสิ่ง
ใดนอกจากความมิดที่ว่างเปล่าก็จริง แต่จิตของคุณแม้ว่าจะมิได้เชื่อมโยงกับ
รูปก็ยังสามารถรับรู้และทำงานอยู่ได้ หากใช้สมาธิที่ดื่มด่ำแน่วแน่คุณก็จะมอง
ทะลุความมืดที่อยู่เบื้องหลังดวงตาที่หลับนั้น และก็จะมองเห็นแสงสว่างอัน
เป็นแหล่งกำเนิดของสิ่งสร้างสรรค์ทั้งปวงได้ โดยอาศัยสมาธิที่ดื่มด่ำ
ประสบการณ์ของคุณก็จะอยู่เหนือแม้แต่แสงสว่างที่ปรากฏนั้นและจะได้เข้าถึง
สภาวะจิตที่มีความสุขนิรันดร์ อันเป็นความสุขที่อยู่รูปทั้งปวง แต่เป็นสภาวะ
ความสุขที่เป็นจริงนิรันดร์ สามารถจับต้องได้ และเป็นสุขกว่าการรับรู้ด้วย
ประสาทสัมผัสทั้งห้าใดๆ.
In seemingly empty space there is one Link, one Life eternal, which unites
everything in the universe — animate and inanimate — one wave of Life
flowing through everything.
ในอวกาศที่รู้สึกว่าว่างเปล่านี้ ยังมีความเชื่อมโยงอย่างหนึ่ง คือความเชื่อมโยงนิ
รันดร์ ซึ่งทำการเชื่อมโยงทุกสิ่งในจักรวาล เข้าด้วยกัน ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งมี
ชีวิตหรือสิ่งที่ไม่มีชีวิตก็ตาม โดยมีคลื่นแห่งชีวิตอย่างหนึ่งไหลผ่านทุกสิ่ง
ทุกอย่างไป.